เครื่องจักรกลงานก่อสร้างในปัจจุบันส่วนมากจะเป็นเครื่องจักรกลประเภทเคลื่อนที่ด้วยตัวเองและทำงานโดยไม่ต้องใช้แรงคน เพียงแต่ใช้คนเป็นผู้ควบคุมการทำงานเท่านั้น เครื่องจักรกลดังกล่าวจำเป็นจะต้องมีเครื่องต้นกำลังที่ทำหน้าที่ผลิตกำลังออกมาใช้งาน ที่นิยมใช้ก็จะมีอยู่ 2 ประเภทคือ เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า สำหรับเครื่องยนต์จะใช้กับเครื่องจักรกล ประเภทที่เคลื่อนที่ด้วยตัวเอง หรือเครื่องจักรกลประเภทที่นำไปใช้งานในที่ที่ไม่มีไฟฟ้า ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าจะใช้กับเครื่องจักรกลที่ไม่ต้องเคลื่อนที่ด้วยตัวเองและนำไปใช้งานที่ที่มีไฟฟ้า เช่น เทาเวอร์เครน เครื่องผสมคอนกรีต
เครื่องยนต์สำหรับเครื่องจักรกลงานก่อสร้าง
เนื่องจากเครื่องจักรกลงานก่อสร้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องจักรกลงานดิน จะต้องทำงานในสภาวะที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำงานหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน เคลื่อนที่ไปบนพื้นที่ขรุขระหรือลาดเอียง อีกฺทั้งต้องทำงานภายใต้สภาวะของอากาศที่สกปรกเต็มไปด้วยฝุ่นละออง ดังนั้นเครื่องยนต์สำหรับเครื่องจักรกลงานก่อสร้าง จึงต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญ ๆ คือ
1. จะต้องมีสมรรถนะสอดคล้องกับการทำงานของเครื่องจักรกล
2. จะต้องทำงานได้ภายใต้สภาวะหนัก และต่อเนื่อง
3.จะต้องสามารถรับแรงกระแทกจากภายนอกได้ คือ ตัวเครื่องยนต์จะต้องแข็งแรงเป็นพิเศษ
4. จะต้องมีการบำรุงรักษาน้อย และประหยัดค่าใช้จ่าย
5. จะต้องสามารถทำงานได้ในสภาวะของอากาศโดยรอบที่สกปรก
6. จะต้องสามารถทำงานได้ในที่ขรุขระและลาดเอียง
จากคุณสมบัติต่าง ๆ ข้างต้น เครื่องจักรกลส่วนใหญ่โดยทั่ว ๆ ไปจะใช้เครื่องยนต์ดีเซล เป็นตัวต้นกำลังมากกว่าเครื่องยนต์เบนชิน ทั้งนี้เนึ่องจาก
1. การสิ้นเปลืองนํ้ามันเชื้อเพลิง (fuel consumption) ของเครื่องยนต์ดีเซลจะน้อยกว่าเครื่องยนต์เบนซิน อีกทั้งราคาน้ำมันดีเซลยังถูกกว่าราคาน้ำมันเบนชินอีกด้วย
2.เครื่องยนต์ดีเซลจะคงทนและแข็งแรงกว่าเครื่องยนต์เบนชิน
3. เครื่องยนต์ดีเซล จะมีการบำรุงรักษาน้อยกว่าเครื่องยนต์เบนชิน
อย่างไรก็ตาม เครื่องจักรกลงานก่อสร้างบางชนิดและบางขนาดยังใช้เครื่องยนต์เบนชิน เป็นเครื่องต้นกำลัง ซึ่งโดยทั่วไปก็จะใช้กับเครื่องจักรกลขนาดเล็กที่ต้องการให้นํ้าหนักเบาเพึ่อ ให้สะดวกในการเคลื่อนย้าย หรือต้องการให้เครื่องจักรกลมีขนาดเล็ก เช่น เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก เครื่องผสมคอนกรีต เครื่องจี้คอนกรีต และเครื่องอัดอากาศขนาดเล็ก